วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ความรู้เรื่อง BLOG

     Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)
ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง
มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภ ท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภ ทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง
ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น
ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq
เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ
และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สำคัญอย่างแท้จริง
สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
Blog คืออะไร           Blog เป็นคำรวมมาจากศัพท์คำว่า เว็บล็อก (WeBlog) สามารถอ่านได้ว่า We Blog หรือ Web Log ไม่ว่าจะอ่านได้อย่างไรทั้งสองคำนี้ก็บ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่าคือบล็อก (Blog)
          คำว่า "บล็อก" สามารถใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
ความเป็นมาของบล็อก          “Weblog” ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1997 เริ่มแรกคนที่เขียนบล็อกนั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเพจขึ้นเองทีละหน้า เขียนเป็นงานอดิเรกของกลุ่มสื่ออิสระต่างๆ หลายๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ แต่ในปัจจุบันนี้ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียนบล็อกกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ อีกทั้งยังมีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียนบล็อกได้มากมาย เช่น Drupal, WordPress, Movable Type เป็นต้น ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อเหลือแต่ “Blog” แทนในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1999 และคำคำนี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆ ผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร จนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2003 ทาง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิต อันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรมออนไลน์ มากที่สุด ประจำปี 2004 และคนเขียนบล็อกก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่างๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูลตั้งแต่เรื่องการเมืองไปจนกระทั่งเรื่องราวของการประชุมระดับชาติ และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่าบล็อกเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ, สิ่งพิมพ์, โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่าบล็อกได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สำคัญอย่างแท้จริง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า “เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ พจนานุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์” ได้ประกาศรายชื่อ คำศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความหมายผ่าน ระบบออนไลน์มากที่สุด 10 อันดับแรกประจำปีนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคำว่า “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคำย่อของ “เว็บ บล็อก” (web log) โดยนายอาเธอร์ บิคเนล โฆษกสำนักพิมพ์พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวว่า สำนักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนำคำว่า “บล็อก” บรรจุลงในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้ว แต่จากความต้องการของผู้ใช้ที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำว่า “บล็อก” ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบางแห่งไปก่อน โดยให้คำจำกัดความไว้ว่า “เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำวัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมอง ความคิดเห็นของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าของเว็บบล็อกเองด้วย” โดยทั่วไปคำศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมนั้นจะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่าคำคำนั้นจะต้องถูกนำมาใช้โดยทั่วไปในระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำศัพท์ ทางเทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้น
          บล็อกมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันในวงการสื่อมวลชนในหลายประเทศ เนื่องจากระบบแก้ไขที่เรียบง่าย และสามารถตีพิมพ์เรื่องราวได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในการเขียนเว็บไซต์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูล หรือแนวความคิด โดยการเขียนบล็อกสามารถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชนได้รวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าสื่อในด้านอื่นจากความนิยมที่มากขึ้น ทำให้หลายเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนการใช้งานบล็อกเพิ่มขึ้นมาในเว็บของตนเอง เพื่อเรียกให้มีการเข้าสู่เว็บไซต์มากขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน
ความหมายของคำว่า Blog          บล็อก คือรูปแบบหนึ่งของเว็บไซต์ เป็นการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของบล็อกนั้นสามารถครอบคลุมได้ทุกเรื่อง มีเนื้อหาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัวที่สามารถเรียกได้ว่า ไดอารีออนไลน์ หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ สามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้าน เช่น สิ่งแวดล้อม การเมือง เทคโนโลยี กีฬา ธุรกิจการค้า เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถแตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่างๆ อีกมากมาย ตามความถนัด ความสนใจของเจ้าของบล็อก เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อกนั่นเอง
          บล็อกถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้ที่ลำดับแรกสุด โดยปกติบล็อกจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงค์ และสื่อชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลง วิดีโอ หรือสื่ออื่นๆ ที่สามารถแสดงผลผ่านเว็บไซต์ได้
          จุดเด่น และจุดแตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผ่านทางระบบการแสดงความคิดเห็น (Comment) ของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้นๆ ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที บล็อกบางแห่งจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัว

ส่วนประกอบของ Blog          บล็อกประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
          1. หัวข้อ (Title)
          2. เนื้อหา (Post หรือ Content)
          3. วันเวลาที่เขียน (Date/Time)
การใช้งานบล็อก          ผู้ใช้งานบล็อกจะแก้ไขและบริหารบล็อกผ่านทางเว็บบราวเซอร์เหมือนการใช้งานและอ่านเว็บไซต์ทั่วไป โดยจะมีรูปแบบบริหารบล็อกที่แตกต่างกัน เช่นบางระบบที่มีบรรณาธิการของบล็อก ผู้เขียนหลายคนจะส่งเรื่องเข้าทางบล็อก และจะต้องรอให้บรรณาธิการอนุมัติให้บล็อกเผยแพร่ก่อน บล็อกถึงจะแสดงผลในเว็บไซต์นั้นได้ ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกส่วนตัวที่จะให้แสดงผลได้ทันที
          ผู้เขียนบล็อกในปัจจุบันจะใช้งานบล็อกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ว่า ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเอง หรือใช้งานบล็อกผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อก ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้ในด้าน HTML หรือการทำเว็บไซต์แต่อย่างใด ทำให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบริหารจัดการ เพิ่มเติม ข้อมูลและสารสนเทศแทนได้ นอกจากนี้ระบบการจัดการบล็อกจะสนับสนุน ระบบ WYSIWYG ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเขียน และอาจเพิ่มเติมการมีเทมเพลตในหลายแบบให้เลือกใช้
          สำหรับผู้อ่านบล็อกจะใช้งานได้ในลักษณะเหมือนอ่านเว็บไซต์ทั่วไป และสามารถแสดงความเห็นได้ในส่วนท้ายของแต่ละบล็อกโดยอาจจะต้องผ่านการลงทะเบียนในบางบล็อก นอกจากนี้ผู้อ่านบล็อกสามารถอ่านบล็อกได้ผ่านระบบฟีด (Feed) ซึ่งมีให้บริการในบล็อกทั่วไป ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านบล็อกได้โดยตรงผ่านโปรแกรมตัวอื่นโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาสู่หน้าบล็อกนั้น

วิธีสร้างบล็อกกับ Blogger




ขั้นที่ 1   การสมัครใช้งาน Blogger สามารถใช้ email ของระบบใดก็ได้ แต่ในระยะยาวแล้วการเชื่อมโยงกับบริการหลายๆอย่างของ google ควรจะใช้ email ของ Gmail ดีที่สุดครับ

ดัง นั้นในขั้นแรกนี้ให้คุณเข้าไปที่ http://www.gmial.com/ เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้กับ google

ขั้นที่ 2   หลังจากได้บัญชีผู้ใช้แล้ว ให้ไปที่ http://www.blogger.com/ เพื่อสร้างบล็อกกันเลยครับ
โดยในการสร้างบล็อกนั้น ก็ให้ใช้ บัญชีผู้ใช้ (user name + password) ที่ได้สร้างไว้ในขั้นที่ 1



ขั้นที่ 3  ในขั้นต่อมาให้กรอก emailที่ได้จากขั้นที่ 1  ชื่อผู้เขียนบล็อก วันเกิด และยอมรับข้อตกลง
แล้ว Click ที่ปุ่มดำเนินการต่อ



ขั้นที่ 4  การตั้งชื่อเว็บบล็อกสามารถใช้ชื่อที่ชอบได้ตามใจ 
แต่การกำหนด URL จะต้องไม่ให้ซ้ำกับคนอื่น ๆ ถ้าซ้ำก็ใช้วิธีเปลี่ยนเป็นคำหรือวลีที่ใกล้เคียงไปเรื่อย ๆ
(การตั้งชื่อและ URL ของบล็อกควรมี keyword ที่สัมพันธ์กับเรื่องที่จะเขียนด้วย)


ขั้นที่ 5  ในขั้นสุดท้ายนี้เป็นการเลือกแม่แบบของบล็อก ให้เลือกแม่แบบใดก็ได้ครับ
เพราะเราจะมาทำการปรับแต่งแม่แบบได้ในภายหลัง ซึ่งผมได้เขียนบทความการเปลี่ยนแม่แบบเอาไว้รอท่านแล้ว




เมื่อจบ 5 ขั้นตอนข้างต้นถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้างบล็อกแล้วครับ  (ง่ายดายใช่ไหมครับ)



ขั้นที่ 6 ในขั้นตอนนี้เป็นการเลือกจัดการกับบล็อกที่สร้างขึ้น
คุณสามารถเข้าไปจัดการส่วนต่าง ๆ ของบล็อกได้จาก http://www.blogger.com/  หรือ draft.blogger.com 



6.1 ถ้าคุณอาจจะเริ่มเขียนบล็อกเลย ให้อ่านข้อแนะนำการเขียนบล็อกจากบทความ วิธีเขียน และจัดการบทความ
6.2 แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนแม่แบบก่อนให้อ่านบทความ วิธี เปลี่ยน Templates ของ Blogger หรืออ่านวิธีออกแบบแม่แบบด้วยตัวเองจากบทความ เครื่อง มือสำหรับออกแบบแม่แบบด้วยตนเอง  

 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ blogเริ่มต้นสร้าง Web blog ของคุณเอง จากนั้นเล่าเรื่องราวในชีวิตของคุณให้คนอื่นๆได้รับทราบทางโลกออนไลน์

เว็บไซต์ Merriam Webstor OnLine ระบุว่าภายในปี 2004 ที่ผ่านมา คำศัพท์ที่มีผู้คนต้องการรู้ความหมายมากที่สุด เป็นคำที่คนส่วนใหญ่เคยได้ยินมา แต่เพิ่งเข้าใจความหมาย คำๆนี้ก็คือ blog นั่นเอง

เว็บไซต์พจนานุกรมออนไลน์แห่งนี้ให้ความหมาย blog ว่าเป็นเว็บไซต์ซึ่งเก็บบันทึกเรื่องราวส่วนตัว โดยมีการแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆเอาไว้ รวมทั้งยังอาจมีไฮเปอร์ลิงก์ที่ผู้เขียนใส่ลงไปด้วย คำว่า blog นี้มาจากคำเต็มๆว่า Web log ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่คุณต้องการ เล่าสู่ให้คนอื่นๆได้รับฟังเอาไว้ในที่เดียวกัน ข้อมูลเหล่านี้อาจประกอบด้วยคำพูด ภาพถ่าย หรือแม้แต่เพลงก็ได้ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในโลกออนไลน์ ที่สามารถค้นหาได้ง่าย ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องส่งอีเมล์จำนวนมากไปให้คนอื่นๆอีกต่อไป

บันทึกเกี่ยวกับชีวิตในครอบครัวหรือแสดงความคิดเห็นของคุณเอง

Andrea Rennick ไม่จำเป็นต้องเปิดพจนานุกรมก็เข้าใจว่า blog หมายความว่าอย่างไร คุณแม่ลูกสี่ผู้นี้บันทึก Web log เกี่ยวกับชีวิตในครอบครัวของเธอเองตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมา เธอบอกว่า "ก่อนที่จะมีคำว่า blog เกิดขึ้นมา เราเรียกวิธีการนี้ว่าการจดบันทึกออนไลน์"

blog ของ Rennich มีชื่อว่า A Typical Life เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในครอบครัวของเธอเอง ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่การออกไปผจญภัยเพื่อชอปปิงในวันเสาร์ ไปจนถึงภาพถ่ายลูกๆของเธอเอง รวมทั้งข้อความเตือนความจำเกี่ยวกับการประชุมในเร็วๆนี้ และเวลาที่ต้องไปเรียนวิชาเพนต์ลวดลายบนแก้วเป็นต้น

Rennick กล่าวว่า "มันเป็นพื้นที่ที่ดิฉันใช้แสดงความคิดเห็นของตนเองได้ ส่วนคุณแม่คนอื่นๆจะเข้ามาแสดงความเห็นใจและช่วยดิฉันคิดหาวิธีแก้ปัญหา" เธอใช้เวลา 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงต่อวันเพื่อเขียนเรื่องราวต่างๆลง blog ของเธอเป็นประจำ ครอบครัวและเพื่อนๆของ Rennick รวมทั้งคุณปู่วัย 88 ปีกลายเป็นผู้อ่านประจำ blog ของเธอไปแล้ว

Rennick เป็นหนึ่งในผู้หญิงหลายพันคนที่บอกเล่าการใช้ชีวิตและประสบการณ์ของตนผ่าน blog ผลการศึกษาของบริษัทวิจัยตลาด Perseus Development กล่าวว่ามีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายที่สร้าง blog ขึ้นมา และมีผู้หญิงจำนวนมากกว่าที่คอยดูแล blog เหล่านี้

ทำไมผู้หญิงสนใจ blog

blog ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆรับทราบข่าวสารการเกิดของทารกคนใหม่ได้พร้อมกัน รับทราบอาการป่วยไข้ล่าสุดของบุคคลอันเป็นที่รัก ทำให้การวางแผนแต่งงานง่ายขึ้น แถมยังสร้างความรู้สึกร่วมของชุมชนต่างๆด้วย

Rennick กล่าวว่า "ผู้หญิงวางแผนแต่งงาน บอกเล่าเรื่องราวการตั้งครรภ์ การรับอุปการะเด็กกำพร้า และช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามเพื่อนทุกข์โศกหรือหย่าร้างผ่านทาง blog ผู้หญิงสามารถมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง หรือสนทนาเป็นกลุ่มก็ได้ พวกเขาใช้ blog เป็นสื่อกลาง"

Tracy Kennedy นักศึกษาปริญญาเอกภาควิชาสังคมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโตรอนโตเชื่อว่าการ blog ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมีความแตกต่างกันอย่างมาก "ผู้หญิงมักเขียนบันทึกส่วนตัวและรวบรวมสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนเอาไว้ แต่ผู้ชายมักไม่ค่อยทำแบบนั้น ดังนั้น blog จึงเหมือนกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันมากกว่า"

เริ่มต้นสร้าง blog ของคุณเอง

การสร้าง blog ขึ้นมาถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง MSN Spaces ยอมให้คุณก่อตั้ง blog ของตนเองขึ้นมาได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แถมคุณยังเสียเวลาสร้าง blog แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น วิธีการก็คือ

ล็อกออนเข้าไปใน MSN Spaces แล้วสร้างบัญชีชื่อของตนเองขึ้นมา
สร้างชื่อเฉพาะสำหรับ blog ของคุณ จากนั้นเขียนคำอธิบายสั้นๆให้คนอื่นๆทราบว่า blog บอกคุณเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร
ใช้โมดูล blogging เพื่อเริ่มต้น blog ได้เลย

แต่คุณจำเป็นต้องตระหนักว่าควรมีการอัพเดต blog ของคุณเองเป็นประจำเพื่อทำให้ blog ของคุณมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้อ่าน Nancy Burton-Vulovic ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีบริษัท DigitalEve (องค์กรระดับโลกซึ่งให้ความสำคัญต่ออิทธิพลของผู้หญิงที่มีต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ) กล่าวว่า "blog แห่งใดซึ่งต้องการก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงจำเป็นต้องมีการเขียนข้อความใหม่ๆ ลงไปเสมอ เนื่องจากผู้คนต้องการย้อนกลับมาทุกวัน หรือทุกสองสามวันเพื่อดูว่ามีอะไรใหม่บ้าง ถ้าหากคุณไม่มีเวลาหรือไม่มีความสนใจมากพอที่จะใส่ข้อมูลใหม่ๆ ของคุณลงไปเรื่อยๆแล้วละก็ การทำให้ผู้คนสนใจก็จะเป็นเรื่องยากมาก"

ไซต์ blog อื่นๆประกอบด้วย Blogger, LiveJournal, Mo'time, HaloScan, QuickTopic และ Bloglines ซึ่งให้บริการฟรีสำหรับผู้ที่มีบัญชีชื่ออีเมล์ของ Hotmail หรือ MSN Messenger อยู่

ค้นหา blog ที่ถูกใจ

บริการเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของ blog ที่ชื่อ Technorati พบว่าในปัจจุบันมี blog มากกว่า 5 ล้านแห่ง คุณสามารถค้นหา blog เกี่ยวกับทุกเรื่องอาทิเช่นการเมือง สื่อมวลชน อาชีพเฉพาะ และความสนใจประเภทต่างๆ ถ้าหากต้องการค้นหา blog ที่คุณสนใจให้เข้าไปดูได้ในไดเรกทอรี blog อย่าง Bloglines หรือ Technorati ก็ได้

ใช้ blog อย่างปลอดภัย

สำหรับผู้หญิงซึ่งกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเอง Rennick แนะนำให้เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของตนอย่างจำกัด ไซต์ส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงเลขที่บ้าน หรือแม้แต่อีเมล์แอดเดรสเอาไว้ คุณต้องจำเอาไว้อย่างหนึ่งว่าเมื่อคุณเผยแพร่ข้อมูลในเว็บแล้ว ทุกคนสามารถอ่าน blog ของคุณได้ ดังนั้นคุณควรเก็บรักษาความลับส่วนตัวที่คุณไม่อยากเผยแพร่เอาไว้ให้ดี

blog ยอดนิยม

Blog Sisters
Blogging Mommies
Generation Exhausted
Daria's Life
A Typical Life
The Mother of All Blogs
Twist of Kate
Me
Motherhood Is Not For Wimps


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น